| 
                     ไหว้พระ 9 วัด ลำพูน | 
                
                  |  | 
                
                  |  |  | ุวัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร |  | 
                
                  | ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลำพูน มีถนนล้อมรอบสี่ด้าน คือ ถนนอัฎฐารสทางทิศเหนือ  ถนนชัยมงคลทางทิศใต้ ถนนรอบเมืองทางทิศตะวันออก  และถนนอินทยงยศทางทิศตะวันตก ห่างจากศาลากลางจังหวัดประมาณ 150 เมตร  สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1651 ในสมัยพระเจ้าอาทิตยราช  เป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนเกิดปีระกา  | 
                
                  | 
 | 
                
                  |  |  | วัดมหาธาตุเจดีย์ศรีเวียงชัย |  | 
                
                  | หมู่ที่ 9 บ้านหนองปู (ห้วยต้ม) ตำบลนาทราย อำเภอลี้ คล้ายชเวดากอง จำลอง  เป็นสถาปัตยกรรมทางพระพุทธศาสนาศิลปะล้านนาที่สร้างด้วยศิลาแลงทั้งองค์  มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ฐานกว้าง 40 x 40 หรือเท่ากับ 1ไร่  ส่วนสูงจากบัวยอดฉัตรลงมาถึงพื้นยาว 64.39 เมตร  ผู้ริเริ่มให้มีการออกแบบและการสร้างคือ หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา  เพื่อให้เป็นพุทธเจดีย์ของพระพุทธเจ้า 5  พระองค์อันจะเป็นพุทธเจดีย์ของภัทรกัปให้ลูกหลานคนไทยได้กราบไหว้เป็นแห่ง  แรกของประเทศไทยและเป็นแห่งที่สองของโลก | 
                
                  | 
 | 
                
                  |  |  | วัดพระบาทห้วยต้ม |  | 
                
                  | เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดของอำเภอลี้  เป็นวัดประจำหมู่บ้านชาวเขาพระบาทห้วยต้ม ตั้งอยู่หมู่ที่ 8 ตำบลนาทราย  ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 10 กิโลเมตร แยกจากทางหลวงหมายเลข 106  บริเวณกิโลเมตรที่ 46 - 47 เข้าไปประมาณ 5 กิโลเมตร  บริเวณทางเข้ามีอนุสาวรีย์พระครูบาชัยวงศาตั้งอยู่ ตามประวัติเล่าว่า  มีชาวลัวะ 2 คน ชื่อแก้วมาเมืองและพยา มาจากเมืองเถิน และพรานล่าเนื้อ 8  คน เข้าป่าล่าสัตว์ได้มาพบพระพุทธเจ้าซึ่งเสด็จมาโปรดพุทธบริษัทบริเวณนี้  จึงนำเนื้อสดที่ล่ามาได้ถวายแด่พระพุทธเจ้า แต่พระพุทธเจ้าไม่ฉันเนื้อ  พวกพรานจึงนำข้าวและผักไปต้มที่ข้างห้วย พอสุกแล้วจึงนำมาใส่บาตร  เมื่อฉันเสร็จแล้วพระพุทธเจ้าจึงเทศโปรดเมตตาให้พวกลัวะและพรานทั้ง 8  คนฟัง จนเกิดศรัทธาขึ้น  จึงขออาราธนาพระพุทธเจ้าเหยียบหินให้เป็นรอยพระพุทธบาท  ประดิษฐานไว้ให้เป็นที่สักการะบูชาของพุทธบริษัททั่วไป
 
 วัดพระบาทห้วยต้มมีอาณาบริเวณกว้างขวาง  ภายในมีสิ่งก่อสร้างทำจากศิลาแลงที่ขุดได้จากบ่อศิลาแลงด้านหลังของวัด  และมีองค์พระธาตุที่ได้รับการตกแต่งอย่างงดงาม โดยครูบาชัยวงศา  พระอาจารย์ชื่อดังของทางภาคเหนือเป็นผู้บูรณะก่อสร้างและจากศรัทธาของบรรดา  ชาวกะเหรี่ยงที่อยู่รอบบริเวณวัด  ชาวกะเหรี่ยงเหล่านี้นอกจากจะทำไร่ทำสวนแล้ว ยังมีอาชีพเป็นช่างฝีมือ  ทอผ้า ทำสร้อยคอ และเครื่องเงินเป็นอุตสาหกรรมครัวเรือน  และทุกปีประมาณเดือนธันวาคมชาวกะเหรี่ยงจะจัดงานชุมนุมชาวกะเหรี่ยงและสืบ
 สานวัฒนธรรม มีกิจกรรมน่าสนใจ อาทิ การแสดงทางวัฒนธรรมชาวดอย  การแข่งขันกีฬา
 พื้นบ้าน และออกร้านจำหน่ายสินค้าฝีมือชาวกะเหรี่ยง  บริเวณบ้านพระบาทห้วยต้ม
 | 
                
                  | 
 | 
                
                  |  |  | ่พระธาตุดวงเดียว (เวียงเจดีย์) |  | 
                
                  | ตั้งอยู่ที่บ้านสันดอยเวียง ตำบลลี้ อำเภอลี้  เป็นวัดขนาดเล็กอยู่บนเนินไม่ไกลจากตัวเมืองลี้ มากนัก  สิ่งปลูกสร้างในวัดรวมทั้งองค์พระธาตุล้วนสร้างขึ้นมาภายหลัง  มีอายุไม่เกิน 80 ปี  โดยสร้่างบนตำแหน่งเมืองโบราณเดิม เจดีย์พระธาตุดวงเดียวเป็นเจดีย์ที่สร้าง  ขึ้นใหม่
 ทรงเหลี่ยม ย่อมุม รูปทรงเพรียวชะลูด สูงประมาณ 30 เมตร  สร้างครอบเจดีย์องค์เดิมจนไม่เหลือเค้าเจดีย์เก่า ตั้งอยู่ภายในระเบียงคด
 
 การเดินทาง
 รถยนต์ จาก อ.ลี้ ใช้ทางหลวงหมายเลข 106 ไปทางอำเภอเถิน จังหวัดลำปาง ประมาณ 1.7 กม. วัดอยู่ซ้ายมือ
 รถประจำทาง ขึ้นรถสาย ลี้-บ้านห้วยต้ม
 | 
                
                  | 
 | 
                
                  |  |  | วัดจามเทวี |  | 
                
                  | หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า วัดกู่กุด ตั้งอยู่ริมถนนจามเทวี ตำบลในเมือง  สร้างเมื่อประมาณ พ.ศ. 1298 เป็นฝีมือช่างละโว้  ลักษณะพระเจดีย์เป็นสี่เหลี่ยมแบบพุทธคยาในประเทศอินเดีย  แต่ละด้านมีพระพุทธรูปยืนปางประทานพรอยู่เป็นชั้นๆ  ภายในเจดีย์บรรจุอัฐิของพระนางจามเทวีปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญไชย  ตามตำนานเล่าว่าเจ้าอนันตยศและเจ้ามหันตยศ  ราชโอรสของพระนางจามเทวีได้สร้างขึ้น เพื่อบรรจุอัฐิของพระนางเมื่อปี พ.ศ.  1298 เดิมมียอดห่อหุ้มด้วยทองคำ ต่อมาจะเป็นสมัยใดไม่ทราบชัด  ยอดพระเจดีย์หักหายไปชาวบ้านจึงเรียกว่า กู่กุด  หรือมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า พระเจดีย์สุวรรณจังโกฏ
 นอกจากนั้นยังมี รัตนเจดีย์ ซึ่งตั้งอยู่ทางขวาของวิหาร  สร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 17 โดยพระยาสรรพสิทธิ์ ฐานล่างสุดเป็นรูป 8  เหลี่ยม มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 4.40 เมตร สูงจรดยอด 11.50 เมตร  องค์เจดีย์เป็นรูปสี่เหลี่ยม แต่ละเหลี่ยมเจาะเป็นซุ้ม  ประดิษฐาน
 พระพุทธรูปยืน ก่ออิฐถือปูนทั้งองค์
 | 
                
                  | 
 | 
                
                  |  |  | วัดพระพุทธบาทตากผ้า |  | 
                
                  | ตั้งอยู่ตำบลมะกอก  เดินทางไปตามทางหลวงหมายเลข 106 ช่วงกิโลเมตรที่ 136 – 137 เข้าไปประมาณ 1  กิโลเมตร จะเห็นบันไดทางขึ้นวัดอย่างชัดเจน  วัดนี้เป็นปูชนียสถานสำคัญของจังหวัดลำพูน  ตามตำนานการสร้างวัดเล่าว่าพระพุทธองค์พร้อมด้วยสาวกได้เสด็จจาริกสั่งสอนไป ตามที่ต่างๆ  จนถึงที่แห่งนี้ได้รับสั่งให้นำจีวรที่ซักระหว่างทางออกมาตากกับหน้าผาหิน  ซึ่งปัจจุบันก็ยังปรากฏเป็นรอยตารางคล้ายจีวรของพระอยู่จนทุกวันนี้  จากนั้นจึงทรงอธิษฐานเหยียบพระบาทประดิษฐานรอยไว้บนลานผาลาดซึ่งเป็นที่ตั้ง
 วัดในปัจจุบัน และบนม่อนดอยเบื้องหลังวัดได้มีการสร้างพระเจดีย์  ซึ่งเป็นศิลปะที่ผสมผสานจากพระธาตุดอยสุเทพและพระธาตุหริภุญชัย  โดยมีบันไดนาค
 469 ขั้น  เชื่อมระหว่างเจดีย์บนม่อนดอยกับวัดพระบาทตากผ้าที่เชิงดอย  ปัจจุบันสามารถนำรถขึ้นไปได้ เมื่อถึงวันแรม 8 ค่ำ เดือนแปดเหนือ  ซึ่งตรงกับวันถวายพระเพลิงพระสรีระของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  จะมีการสรงน้ำพระพุทธบาทเป็นประเพณีทุกปี
 | 
                
                  | 
 | 
                
                  |  |  | วัดมหาวัน |  | 
                
                  | ตั้งอยู่ริมถนนจามเทวี ตำบลในเมือง  อำเภอเมืองลำพูน ห่างจากศาลากลางจังหวัดประมาณ 500 เมตร  เลียบไปตามคูเมืองเก่า มีตำนานการสร้างวัดกล่าวว่า  วัดนี้สร้างมาแต่ครั้งพระนางจามเทวีขึ้นครองนครหริภุญไชยในราวพ.ศ.  1200 สิ่งที่น่าชมคือ พระพุทธสิกขิ หรือพระศิลาดำ  ซึ่งพระนางจามเทวีอัญเชิญมาจากเมืองละโว้  ชาวเมืองเรียกพระพุทธรูปองค์นี้ว่า พระรอดหลวง หรือพระรอดลำพูน  ซึ่งมีความสำคัญและเป็นแบบพิมพ์ในการจำลองทำพระเครื่องที่ลือชื่อคือ  พระรอดมหาวัน สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 0 5353 5242
 | 
                
                  | 
 | 
                
                  |  |  | วัดศรีดอนชัย |  | 
                
                  | ตั้งอยู่ที่ 147 หมู่ที่ 10 บ้านศรีดอนชัย ตำบลบ้านธิ  สามารถเดินทางไปตามทางหลวงหมายเลข 11 ระหว่างกิโลเมตรที่ 76 – 77 เข้าไป 2  กิโลเมตร วัดนี้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางลีลาสูง 59 ศอก  เป็นพระพุทธรูปที่สูงและใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ  สร้างขึ้นจากศรัทธาของประชาชน
 ในปี พ.ศ. 2538  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล  เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช  ทรงครองราชย์เป็นปีที่ 50 และพระองค์ทรงพระราชทานนามว่า  พระพุทธเฉลิมสิริราช
 | 
                
                  | 
 | 
                
                  |  |  | วัดป่าซางงาม |  | 
                
                  | ตั้งอยู่ที่ตำบลป่าซาง วัดประจำอำเภอ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมงคลสราการ  ถือเป็นพระประจำอำเภอป่าซาง เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย  ที่วัดนี้มีหอไตรลักษณะเป็นตึกทึบสองชั้น หลังคาลดชั้นแบบล้านนา  หน้าต่างชั้นบนมีขนาดเล็ก เขียนลายเทวดา ภายในวิหารมีบุษบกไม้แกะสลัก  เป็นของเก่าแก่อายุหลายร้อยปี และเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่องาม  พระพุทธรูปปางมารวิชัยหน้าตักกว้าง 2 เมตร ภายในยังมีพิพิธภัณฑ์วัดป่าซาง  จัดแสดงสิ่งของเครื่องใช้ กลอง เป็นต้น การเดินทาง รถยนต์ จากอำเภอป่าซาง  ใช้ทางหลวงหมายเลข 106 ไปทาง อำเภอบ้านโฮ่ง ประมาณ 300 เมตร  หรือรถประจำทาง ขึ้นรถสายลำพูน-สามแยกท่าจักร-กู่ระมัก-ป่าซาง | 
                
                  | 
 |